วิธีรับยันต์เกราะเพชรด้วยตนเองที่บ้าน
เราต้องเริ่มพิธีเวลาเดียวกันกับที่วัดด้วยนะครับ
กำหนดการเป่ายันต์ วันเสาร์ ที่ตรงกับขึ้น ๕ ค่ำ
๑๐.๐๐ น. เป่ายันต์เกราะเพชร รอบแรก
๑๓.๐๐ น. เป่ายันต์เกราะเพชร รอบที่ ๒
ผู้รับยันต์ต้องมี ธูปเทียน ๑ ชุด เป็นเครื่องบูชาพระ
(- ธูป 3 ดอก
- เทียน 1 เล่ม (หนัก 1 บาท)
- ดอกไม้สด) ถ้าเป็นหญิงมีครรภ์ ต้องจัดธูปเทียน
เผื่อลูกในท้องอีก ๑ ชุด ธูปเทียนนี้ไม่ต้องจุด เมื่อเสร็จพิธีแล้ว นำกลับบ้านได้
ใช้สำหรับไล่ผีชะงัดนัก เอาธูปเทียนจี้เข้า ผีเผ่นกระเจิง...!
การเป่ายันต์ไม่ได้เป่าทีละคน หากแต่เป่าทีละเต็มศาลา
กี่หมื่นกี่แสนคนก็เป่าพร้อมกันทีเดียว "พระ" ท่านบอกว่า
เป่าทีเดียวทั่วจักรวาล จะอยู่มุมไหนของโลกก็ตาม
ถ้าตั้งใจรับด้วยความเคารพก็มีผลเช่นเดียวกับคนที่มาเข้าพิธีด้วยตัวเอง...
หลวง พ่อจะให้ผู้รับยันต์ สมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน
แล้วดูภาพยันต์(เกราะเพชร)ที่ตั้งไว้ในพิธี ตั้งใจจำภาพยันต์ไว้ในใจ แล้วหลับตาภาวนาว่า
พุทโธ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าหลวงพ่อจะบอกว่าเสร็จพิธี...
ปล.
โดยในช่วงเวลาเริ่มต้นพิธีให้กราบพระรัตนตรัย สวดบทไตรสรณคมณ์
สมาทานศีล 5 สมาทานพระกรรมฐาน (ตามแบบหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
วัดท่าซุง)
แล้วดูภาพยันต์ที่ตั้งไว้ในพิธี ตั้งใจจำภาพยันต์ไว้ในใจ
แล้วหลับตาภาวนาว่า "พุทโธ" ไปเรื่อย ๆ หากไม่มีภาพยันต์ก็ให้ภาวนา
"พุทโธ" ไปอย่างเดียว ให้ภาวนาไปประมาณ 30 นาที
ก็เป็นอันเสร็จพิธี
หากสงสัยว่าจะมีผลหรือไม่
"พระ" ท่านบอกว่า เป่าทีเดียวทั่วจักรวาล
จะอยู่มุมไหนของโลกก็ตาม
ถ้าตั้งใจรับด้วยความเคารพก็มีผลเช่นเดียวกับคนที่มาเข้าพิธีด้วยตัวเอง...
สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อไหว้ครู
- ธูป 3 ดอก
- เทียน 1 เล่ม (หนัก 1 บาท)
- ดอกไม้สด
ทำพิธีหน้าหิ้งพระ หรือโต๊ะหมู่บูชาพระ หรือถ้าไม่มีก็หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
I. กราบพระรัตนตรัย
II. นะโม ๓ จบ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
III. อิติปิโส ๓ ห้อง
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ.
สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ
วิญญูหีติ.
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสสะ ยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย
อัญชะลีกะระนีโย อะนุตตะรัง ปุญญะเขตตัง โลกัสสาติ.
IV. บทไตรสรณคมณ์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
V. สมาทานศีล 5
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ
ยาจามะ
ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ
ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ
ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
VI. สมาทานพระกรรมฐาน
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ
ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ขอมอบกายถวายชีวิตแด่
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์
พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา
ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐาน ทั้ง ๔๐ ทัศ
พระปีติทั้ง ๕ และ
วิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ขอพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕
และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ จงมาบังเกิด
ปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ
กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิต
รู้ภาวการณ์ต่าง ๆ
ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้
เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจน
แจ่มใสและพยากรณ์ได้ ตามความเป็นจริงทุกประการ
เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้า
ได้รู้เหตุนั้นได้โดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
VII. ดูภาพยันต์ที่ตั้งไว้ในพิธี
ตั้งใจจำภาพยันต์ไว้ในใจ
หลับตาภาวนาว่า "พุทโธ" ไปเรื่อย ๆ
หากไม่มีภาพยันต์ก็ให้ภาวนา "พุทโธ" ไปอย่างเดียว ให้ภาวนาไปประมาณ 30
นาที
เพิ่มเติม
http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2279
ยันต์เกราะเพชร
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดนครศรีอยุธยา
องค์บูรพาจารย์ของหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
เป็นต้นตำรับการเป่ายันต์เกราะเพชร
หลวงพ่อเมตตาเล่าว่า งานเป่ายันต์แต่ละครั้ง
เรือแพแน่นขนัดไปทั้งแม่น้ำ เดินข้ามไปอีกฝั่งได้สบาย ๆ
ผู้คนหลั่งไหลกันมามืดฟ้ามัวดิน หุงข้าวพร้อมกันทีละแปดกระทะ
ตั้งแต่เช้ายันเย็นยังไม่พอเลี้ยงคนเลย...!
ยันต์เกราะเพชรนี้ หลวงพ่อปานศึกษาจากตำราพระร่วง
โดยตัดมาจากส่วนหนึ่งของธงมหาพิชัยสงคราม
*****ธงมหาพิชัยสงคราม*****
เป็นการนำเอาพุทธคุณบทต้น
มาเขียนเป็น ตัวขอม อ่านตามขวางว่า
อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง
ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท
โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ
ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ
วา โธ โน อะ มะ มะ วา
อะ วิ สุ นุต สา นุส ติ
หลวงพ่อฤาษี เป่ายันต์เกราะเพชรที่วัดท่าซุง
หลวงพ่อเริ่มเป่ายันต์อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อวันที่ ๒๐
พฤศจิกายน ๒๕๒๕
ที่ ศาลาพระพินิจอักษร คนมารับยันต์หลายพันคน
ต้องทำพิธีเป่าอยู่หลายรอบ
ครั้งที่ ๒ เมื่อ วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๒๖ ที่ ศาลา ๒ ไร่
ผู้คนแห่กันมาหลายหมื่นคน
ต่อมาหลวงพ่อได้สร้างศาลา ๓ ไร่, ๔ ไร่
และศาลา ๑๒ ไร่ เพื่อรองรับศรัทธาเพราะ
มีผู้มาร่วมพิธีเป่ายันต์กันมากขึ้นทุกปี ขนาดศาลา ๑๒
ไร่คนก็เต็มและต้องเป่าหลายรอบ
การเป่ายันต์ไม่ได้เป่าทีละคน หากแต่เป่าทีละเต็มศาลา
กี่หมื่นกี่แสนคนก็เป่าพร้อมกันทีเดียว "พระ" ท่านบอกว่า
เป่าทีเดียวทั่วจักรวาล
จะอยู่มุมไหนของโลกก็ตาม ถ้าตั้งใจรับด้วยความเคารพ
ก็มีผลเช่นเดียวกับคนที่มาเข้าพิธีด้วยตัวเอง...
หลวงพ่อจะให้ผู้รับยันต์ สมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน
แล้วดูภาพยันต์ที่ตั้งไว้ในพิธี ตั้งใจจำภาพยันต์ไว้ในใจ
แล้วหลับตาภาวนาว่า พุทโธ ไปเรื่อย ๆ
จนกว่าหลวงพ่อจะบอกว่าเสร็จพิธี...
ยันต์เกราะเพชรคือพุทธานุภาพ ขณะที่เราหลับตาภาวนา
พระพุทธเจ้าจะเปล่งฉัพพรรณรังสีลงมา ครอบคลุมท่านที่ตั้งใจรับยันต์
หลวงพ่อท่านจะคอยดูอยู่ พอพระท่านบอกว่าเต็มแล้ว
หลวงพ่อก็จะบอกให้เลิกภาวนา...
เมื่อ ยันต์เกราะเพชรเริ่มจับตัว ผู้รับจะมีอาการต่าง ๆ กัน
เช่นร้อนหู ร้อนหน้า
ขนลุกขนชัน หนักศีรษะ หรือ คันยุบยิบเหมือนมีตัวไรไต่
บางคนจับไข้ไปเลย
อาการเหล่านี้จะทรงอยู่ไม่เกิน ๒-๓ วัน
พอยันต์เข้าตัวหมดก็หายไปเอง...
ผู้ที่ถูกไสยศาสตร์มา ไม่ว่าจะเป็นคุณผี-คุณคน หรืออะไรก็ตาม
เมื่อเริ่มทำการเป่ายันต์ ท้าวจตุมหาราชและ
บริวารจะช่วยขับของเหล่านั้นออกให้
คนที่โดนของมาจะทั้งดิ้นทั้งร้อง ต้องปล่อยให้สงบไปเอง
เลิกดิ้นเลิกร้องเมื่อไร แปลว่า ของอาถรรพ์สลายตัวหมดแล้ว...!
การเป่า ยันต์เกราะเพชร เป็นการปลุกเสกวัตถุมงคลไปในตัวด้วย
ใครมีวัตถุมงคล ไม่ว่าจะเป็นพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตะกรุด หรือ
เครื่องรางใด ๆ ก็ตาม
เวลาเข้าพิธีให้วางไว้บนตักตัวเอง เสร็จพิธีเป่ายันต์
ก็นำไปใช้ได้เลย...
การรักษายันต์เกราะเพชรให้อยู่กับตัว ผู้รับยันต์ไปต้องมีศีล ๕
บริสุทธิ์
หรืออย่างน้อย ต้องมีศีล ๒ ข้อ คือห้ามกินเหล้า และห้ามลักขโมย
ตอนเช้าต้องสวดมนต์ไว้พระ นึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อาราธนาบารมีของท่าน ลงมาเป็นเกราะเพชรคลุมกายเรา ภาวนา
"พุทโธ" ให้ใจสบาย
แล้วกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง ถ้าทำแบบนี้ได้ทุกวัน อานุภาพของยันต์เกราะเพชร
จะคุ้มครองรักษา ให้ท่านมีความปลอดภัยทุกประการ...
ผู้ที่รับยันต์ไปแล้ว ถ้ารักษาไว้ได้จะมีอานุภาพดังนี้
๑. จะไม่ตายโหงอย่างเด็ดขาด
๒. จะไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด
๓. ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ทุกชนิด
๔. ไสยศาสตร์ทุกประเภท จะสะท้อนกลับไปเอง
ผู้รับยันต์ไปเป็นผู้ใหญ่ ถ้ารักษาไว้ด้วยดี เมื่อตายแล้วเผา
จะมียันต์ติดอยู่ที่กระดูก สำหรับเด็กในท้อง ถ้าเป็นลูกชายคนหัวปี
เมื่อคลอดออกมา จะมียันต์ติดอยู่ตามตัว เป็นลวดลายต่าง ๆ กันไป...
ลูกศิษย์หลวงพ่อหลายคน เมื่อตายแล้วเผามียันต์ติดที่กระดูก
บางคนกระดูกลายเป็นพระธาตุไปเลย
เด็กที่เกิดมามียันต์เกราะเพชรติดตัวเป็นจำนวนมาก
บางคนลายเป็นแตงไทย บางคนหูดำทั้งสองข้าง
บางคนเป็นยันต์เกราะเพชรอย่างชัดเจน...
รายหนึ่งอยู่ลพบุรี ผู้เป็นแม่รับยันต์ไปแล้ว ตั้งใจรักษาศีล ๘
อย่างเคร่งครัด
ลูกเกิดมามียันต์เป็นสีแดง และปรากฏขึ้นทุกวันพระ
อีกรายมียันต์ติดกระหม่อมเป็นรูปกงจักร
ซึ่งลวดลายยันต์เหล่านี้จะค่อย ๆ ซึมเข้าเนื้อ ไปอยู่ที่กระดูกจนหมด
พระคาถาคาถายันต์เกราะเพ็ชร สมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์
ตั้งนะโม ๓ จบ
๑. อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
บทนี้ชื่อ กระทู้ ๗ แบก ประจำอยู่ทิศบูรพา (ทิศตะวันออก)
บทที่ 1 เสกเป่าแก้พิษสัตว์กัด ต่อยได้
๒. ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง
บทนี้ชื่อว่า ฝนแสนห่า ประจำอยู่ทิศอาคเณย์ (ทิศตะวันออกเฉียงใต้)
บทที่ 2 เสกทำน้ำมนต์ รดคนเจ็บไข้ได้ป่วย ผีเจ้าเข้าทรง
๓. ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท
บทนี้ชื่อ นารายณ์เกลื่อนสมุทร ประจำอยู่ทิศทักษิณ (ทิศใต้)
บทที่ 3 เสกภาวนากันภูตผีปีศาจ เป่าพิษบาดแผล
๔. โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ
บทนี้ชื่อ นารายณ์ถอดจักร์ ประจำอยู่ทิศหรดี (ทิศตะวันตกเฉียงใต้)
บทที่ 4 เสกจดครบ 108 จบ ทำน้ำมนต์
ไล่ผีหรือ ให้คนท้องกิน จะคลอดลูกง่าย
๕. ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
บทนี้ชื่อ นารายณ์ขว้างจักร์ตรึงไตรภพ ประจำอยู่ทิศประจิม
(ทิศตะวันตก)
บทที่ 5 เสกพรมร่างคนไข้ ไล่ภูตผีปีศาจร้าย ดีนัก
๖. คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ
บทนี้ชื่อ นารายณ์พลิกแผ่นดิน ประจำอยู่ทิศพายัพ
(ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ)
บทที่ 6 เสกทำน้ำมนต์ ป้องกันผีเจ้าเข้าทรง
หรือถูกคุณกระทำชะงัดนัก
๗. วา โธ โน อะ มะ มะ วา
บทนี้ชื่อ ตวาดฟ้าป่าหิมพานต์ ประจำอยู่ทิศอุดร (ทิศเหนือ)
บทที่ 7 เสกด้าย หวาย มีด ข้าวสาร ขับไล่ผีบ้าน
ผีป่าเวลาเดินทางดีนัก
๘. อา วิช สุ นุต สา นุ ติ
บทนี้ชื่อ นารายณ์แปลงรูป ประจำอยู่ทิศอีสาน (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)
บทที่ 8 เสกเป่าตัวเองป้องกันตัวเองเวลาเดินทางออกจากบ้าน
แคล้วคลาดได้
ที่มา http://www.prommapanyo.com/smf/index.php?topic=1183.0
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น